1. เอกสารประจำรถ
ขั้นตอนแรก และเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากครับ เพื่อเป็นความสบายใจและถูกกฎหมายถูกกฎจราจร ในการเลือกซื้อรถ Bigbike มือสอง โดยเราตรวจเช็คเอกสารประจำรถ ว่ามีการจดเบียนถูกต้องตามข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ เช็คเอกสารรถ เลขตัวถัง และเอกสารการโอน ขั้นตอนนี้นับว่า จะเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ของการเลือกซื้อรถ Bigbike หรือรถอื่นๆ ที่คุณต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากเลยครับ
2. การเช็คเครื่องยนต์
การตรวจเช็คเครื่องยนต์ เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีความสำคัญในการขับขี่ ที่ลูกค้าหลายๆ ท่าน ยิ่งเป็น bigbike มือสอง ยิ่งจำเป็นต้องเลือกเครื่องยนต์ให้ได้สภาพที่ดี เครื่องยนต์เป็นหัวใจหลักก็ว่าได้ครับ เพื่อขับขี่ได้เต็มประสิทธิภาพ
แต่การตรวจสอบเครื่องยนต์ไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก เพราะเราไม่สามารถรู้ลึกถึงรายละเอียดชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ได้เลยครับ คงต้องอาศัยการฟังเสียงแทน โดยลองสตาร์ทเครื่อง ฟังเสียงเครื่องยนต์รอบเดินเบาว่ามีการสวิงสูง หรือแกว่งไปมาหรือไม่ และถ้าเราเร่งเครื่องแล้ว เสียงดังผิดปกติ มีละอองน้ำมันพ่นออกมา หรือมีควันขาวมาก แสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหาครับ
3. การตรวจเช็คสภาพรถทั่วไป
3.1 ให้สังเกตุสีของรถ big bike
การสังเกตุดูสีรถ ว่าเป็นสีดั่งเดิม จากโรงงานหรือพ่นทำสีใหม่ สีดั่งเดิมอย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า รถ bigbike มือสองคันนี้ยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน ส่วนใหญ่แล้ว ร่องรอยของการเกิดอุบัติเหตุ จะใช้การทำพ่นสีใหม่ ส่วนน้อยมากที่จะเปลี่ยนชุดแฟริ่งใหม่ เพราะต้องใช้เงินเป็นหลักหมื่นบาท แต่การพ่นสีใหม่ใช้ในหลักพันบาท
ดังนั้นวิธีการสั่งเกตุง่ายๆ คือ ดูว่าสติ๊กเกอร์ตรงชุดแฟริ่งนั้น จะอยู่บนเล็กเกอร์ ไม่ได้อยู่ใต้เล็กเกอร์ ให้เอามือลูบ หากรู้สึกสะดุด ไม่เหมือนการซ่อมสี เฉพาะส่วนที่พ่นเล็กเกอร์ทับไว้อีกชั้น หากเป็น bigbike มือสอง รุ่นเก่าๆ พวกลายสีจะเป็นลายสติ๊กเกอร์ไม่ใช่ลายสีพ่น พยายามดูชุดแฟริ่งอย่าให้มีรอยแตกหัก หรือผ่านการซ่อมแซมมาก็พอ
3.2 ตรวจเช็คยาง และแม็ก
ยางรถ และแม็ก จำเป็นต้องเลือกเช่นกันครับ ไม่ควรมองข้าม การเลือกยางสภาพที่ดีนั้น ดูที่แก้มไม่แตกเนื้อยางไม่แข็งเกินไป และให้สังเกตวันที่ผลิต เพราะหากวันผลิตใช้งานหลายปี จะส่งผลถึงประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของยาง ส่วนล้อแม็ก เช็คดูว่ามีรอยแตกร้าว และมีความเสียหายไปจากเดิมหรือไม่ ซึ่งจะผลอันตรายในภายหลังได้ครับ
3.3 เช็คโซ่ และสเตอร์
ระบบส่งกำลัง ที่มีความเด่นที่เห็นได้ชัด คือ โซ่ และสเตอร์ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของระบบส่งกำลังเลยครับ สองอย่างนี้จะทำงานคู่กันเสมอ หากมีส่วนได้ส่วนหนึ่งเกิดการชำรุด จะทำให้ทำงานไม่เต็มที่
ดังนั้นวิธีสังเกตุ ส่วนของสเตอร์นั้น ให้ดูสภาพฟันว่ามีสภาพที่เสี่ยงต่อการหัก และโค้งงอหรือไม่ หากสภาพเป็นอย่างที่กล่าวมา จะไม่พร้อมใช้งาน ควรเปลี่ยนในทันที ส่วนของโซ่ ให้ลองดึงออกจากตำแหน่งของสเตอร์ หากดึงแล้วได้มากกว่าครึ่งของสเตอร์นั้น แสดงว่าโซ่นั้นใกล้จะหมดสภาพการใช้งานแล้วครับ เป็นสัญญาณที่บอกว่าใกล้ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแล้วได้แล้วครับ
3.4 ตรวจระบบเบรก
เบรกเป็นส่วนที่คุณต้องให้สำคัญ ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เบรกทุกส่วนต้องทำงานอย่างมีประสิทธิ ยิ่งเป็นรถ bigbike เป็นรถที่มีความเร็วสูงเป็นส่วนใหญ่ เบรกจึงจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นวิธีสังเกตุเบรก ให้สังเกตที่ท่อน้ำเบรก ยังอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่
จากท่อแล้วก็ไปดูพวกคาร์ลิปเปอร์เบรกกันว่ามีรอยกระแทรกมั้ย อาจทำให้คาร์ลิปเปอร์เบี้ยวได้ จากนั้นให้ดูส่วนของจานเบรกว่ามีรอยอะไรบางไหม อย่างเช่น จานคด จานไหม้ ให้เราตรวจสอบทั้งล้อหน้า และล้อหลัง เกิดเสียงอะไรผิดปกติหรือเปล่า ส่วนถ้าจะลองว่าเบรกลื่น เบรกได้ไหม อันนี้ต้องลองขับแล้วเบรกดู เพราะเรื่องเบรกต้องดูกันให้ดีน่ะครับ
4. สรุป
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ วิธีเลือกซื้อ Bigbike มือสอง พอจะเป็นแนวทางให้คุณได้เลือกซื้อได้ไม่น้อยใช่ไหมครับ ก็อย่างที่บอกเลยครับ การเลือกรถมือสองจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของคนที่กำลังจะซื้อรถ bigbike ดีๆ สักคัน ให้ได้เกรด A ไม่ใช้เรื่องยากเลยครับ เพียงคุณทำตาม วิธีต่างๆ ที่ผมได้แนะนำเอาไว้ คุณจะได้รถ bigbike คุณภาพดีๆ มาใช้ในไม่แพ้รถป้ายแดงเลยครับ